- มนตรี นิพิฐวิทยา –
ดังนั้นการลงทุน (เน้นครับว่าลงทุนไม่ใช่เล่น เทรดหุ้น)
จะต้องคาดหวังว่ากำไรในระยะยาวของกิจการนั้นๆ
จะต้องสร้างกำไรที่สามารถก่อให้เกิดกระแสเงินสดได้ต่อเนื่อง เราจึงเน้นที่กำไรจริง
ไม่ใช่ one time gain เน้นคุณภาพกำไร (Quality of Earnings) บางหุ้นผมถึงเน้นการดู CFROI สูตรนี้เป็นวิธีเฉพาะของผม
และไม่เคยผิดหวังในการลงทุนยาว และการคาดหวังกระแสเงินสดที่ยาวต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอจึงต้องมีการบริหารงานที่ดี
ผมจึงเน้นที่ความนิ่ง ความผันผวนของอัตราส่วนการเงินต้องไม่มาก กิจการที่ดีไม่ต้องทำสูงสุดเสมอไป
แต่ที่สำคัญคือที่ผ่านมาอัตราส่วนต้องสม่ำเสมอในทางที่ดี
ในอีกด้านนั้น จากแนวคิดของลอร์ด เคนส์
นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำและก็เป็นนักลงทุนที่ประสบผลสำเร็จมากคนหนึ่ง
เชื่อว่าคงไม่มีนักลงทุนคนใดจะซื้อหุ้นที่ราคา 80 บาท
แม้ว่ามูลค่าพื้นฐานจะอยู่ที่ 100 บาทก็ตาม
หากเขาเชื่อว่าราคาตลาดใน 1 เดือนข้างหน้าจะเป็น 70 บาท
นักลงทุนอาจประสบความสำเร็จได้จากการวิเคราะห์และประเมินว่าสภาวะการลักษณะใดที่มวลชนมีความอ่อนไหว
และจะก่อให้เกิดประกายความหวัง และการมองโลกในแง่ดีมากที่สุด
แล้วก็เข้าไปลงทุนเอาไว้ก่อน
เมื่อสภาวะการดังกล่าวเกิดขึ้นและเมื่อมวลชนทั่วไปเข้ามาลงทุนมากขึ้น
หลักทรัพย์ที่ซื้อไว้ก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
นักลงทุนจึงควรต้องมองและแยกแยะประเด็นทั้งสองให้ดีระหว่างพื้นฐานที่ดี
กับภาวะตลาด (ความคาดหวัง) หุ้นดีจึงไม่จำเป็นต้องขึ้นทันที แต่มันจะไม่ตกยาวนานแน่นอน
(อันนี้ต้องวิเคราะห์ให้เป็น อ่านงบได้ถูกต้องด้วยนะครับ) ข่าวและกระแส ก็คือข่าวและกระแสอาจทำให้หุ้นขึ้นป็นเดือนหรือตลอดปีจนนักลงทุนคิดว่าหุ้นนั้นทำ
All Time High แต่ถ้างบไม่ดี สุดท้ายก็ลงมาทุกตัว
ข้อสังเกตนี้มีให้เห็นมากมายในอดีตจนถึงปัจจุบัน อย่างซื้อหุ้นเพียงเรื่องเล่า
ข่าวบอกมาหรือผู้บริหารว่าไว้ ทุกอย่างหากทำได้ ทำจริงต้องอยู่บนงบการเงินเท่านั้น
การพิจารณามูลค่าพื้นฐานที่ถูกต้องสมบูรณ์นั้นเป็นไปได้ยาก
เนื่องจากมีปัจจัยต่างๆหลายปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้
ขึ้นอยู่กับการใช้สมมุติฐานต่างๆประกอบการประเมินมูลค่า นักลงทุน
มุ่งหวังมูลค่าเพิ่มขึ้นในระยะยาว (Capital Appreciation) และกระแสเงินปันผล
นักเก็งกำไรมุ่งหวังส่วนต่างราคา (Capital Gain)
นักลงทุน ทำปศุสัตว์ ทำเกษตรกรรม นักเก็งกำไรเป็นพรานล่าเนื้อ