วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

การตบแต่งตัวเลขทางบัญชี Accounting Tactics or Creative Accounting


การตบแต่งตัวเลขทางบัญชี Accounting Tactics or Creative Accounting

สาเหตุและเงื่อนไขที่จูงใจธุรกิจทำการตบแต่งตัวเลขทางบัญชี

-      เพื่อการส่งสัญญาณที่ทำให้เข้าใจผิดทางการเงิน (Misinformation, signalling and financial motives)

-      มีต้นทุนจากกลุ่มที่มีส่วนได้เสีย (ผู้ถือหุ้นกับผู้บริหาร) (The agency cost)

-      มีการบริหารงานที่แย่ (Poor management)

-      เพื่อลดความไม่แน่นอนหรือความเสี่ยง (Reducing uncertainty and risk)

-      ขาดความเข้าใจในหลักทางบัญชี (The weaknesses of the current accounting concepts )

-      ได้รับแรงกดดันจากนักลงทุนสถาบัน (Pressure from big institutional investors)



ตัวอย่างเงื่อนไขที่จูงใจการตบแต่งตัวเลขทางบัญชี

-      อัตราส่วนหนี้ต่อทุนสูงหรือมีแนวโน้มสูงขึ้น

-      มีผลขาดทุนสะสมต่อเนื่องหลายงวดบัญชีติดต่อกัน

-      มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบต่อเนื่องหลายงวดบัญชี

-      อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มลดต่ำลงต่อเนื่อง

-      อุตสาหกรรมมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น หรือรายได้ของอุตสาหกรรมเริ่มผันผวนซึ่งมาจากทั้งด้าน demand, price or foreign exchange 

-      มีรายการ Contingent liabilities



ทุกสาเหตุหรือเงื่อนไข ล้วนมุ่งไปสู่ Earnings management หรือ Income smoothing คือเป้าหมาย

-      ตกแต่งสินทรัพย์ หรือหนี้สิน รายการนั้นก็ต้องมีผลต่อกำไร ไม่เพิ่มรายได้ ก็ลดค่าใช้จ่าย

-      ไม่มีการตกแต่งใดกระทบขาเดียวในทางบัญชี เดบิต = เครดิตเสมอ

-      ทำขาเดียวไม่ได้ งบจะไม่ดุล

-      จึงทำให้เกิดการบิดเบี้ยวในอัตราส่วนทางการเงินอย่างน้อย 1 ค่าเสมอ



ตัวอย่างประเภทของ Creative Accounting ที่ทำบ่อยๆ

-      การรับรู้รายได้ก่อนถึงเวลาอันควรหรือการรับรู้รายได้ สร้างรายได้ปลอม

-      การตั้งรายจ่ายเป็นต้นทุนสินทรัพย์เชิงรุก และนโยบายการตัดจำหน่ายที่ยืดระยะเวลาออกไป

-      สินทรัพย์และหนี้สินที่แสดงไว้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

-      การรังสรรค์งบกำไรขาดทุน  (สร้างกำไร one-time)

-      ปัญหาที่เกิดจากการรายงานกระแสเงินสด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น