การตบแต่งตัวเลขทางบัญชี Accounting Tactics or Creative Accounting
สาเหตุและเงื่อนไขที่จูงใจธุรกิจทำการตบแต่งตัวเลขทางบัญชี
-
เพื่อการส่งสัญญาณที่ทำให้เข้าใจผิดทางการเงิน (Misinformation,
signalling and financial motives)
-
มีต้นทุนจากกลุ่มที่มีส่วนได้เสีย
(ผู้ถือหุ้นกับผู้บริหาร) (The agency cost)
-
มีการบริหารงานที่แย่ (Poor management)
-
เพื่อลดความไม่แน่นอนหรือความเสี่ยง (Reducing
uncertainty and risk)
-
ขาดความเข้าใจในหลักทางบัญชี (The weaknesses of
the current accounting concepts )
-
ได้รับแรงกดดันจากนักลงทุนสถาบัน (Pressure from big
institutional investors)
ตัวอย่างเงื่อนไขที่จูงใจการตบแต่งตัวเลขทางบัญชี
-
อัตราส่วนหนี้ต่อทุนสูงหรือมีแนวโน้มสูงขึ้น
-
มีผลขาดทุนสะสมต่อเนื่องหลายงวดบัญชีติดต่อกัน
-
มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบต่อเนื่องหลายงวดบัญชี
-
อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มลดต่ำลงต่อเนื่อง
-
อุตสาหกรรมมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น
หรือรายได้ของอุตสาหกรรมเริ่มผันผวนซึ่งมาจากทั้งด้าน demand, price or
foreign exchange
-
มีรายการ Contingent liabilities
ทุกสาเหตุหรือเงื่อนไข ล้วนมุ่งไปสู่ Earnings management หรือ Income
smoothing คือเป้าหมาย
-
ตกแต่งสินทรัพย์ หรือหนี้สิน
รายการนั้นก็ต้องมีผลต่อกำไร ไม่เพิ่มรายได้ ก็ลดค่าใช้จ่าย
-
ไม่มีการตกแต่งใดกระทบขาเดียวในทางบัญชี เดบิต =
เครดิตเสมอ
-
ทำขาเดียวไม่ได้ งบจะไม่ดุล
-
จึงทำให้เกิดการบิดเบี้ยวในอัตราส่วนทางการเงินอย่างน้อย
1 ค่าเสมอ
ตัวอย่างประเภทของ Creative Accounting ที่ทำบ่อยๆ
-
การรับรู้รายได้ก่อนถึงเวลาอันควรหรือการรับรู้รายได้
สร้างรายได้ปลอม
-
การตั้งรายจ่ายเป็นต้นทุนสินทรัพย์เชิงรุก และนโยบายการตัดจำหน่ายที่ยืดระยะเวลาออกไป
-
สินทรัพย์และหนี้สินที่แสดงไว้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
-
การรังสรรค์งบกำไรขาดทุน (สร้างกำไร one-time)
-
ปัญหาที่เกิดจากการรายงานกระแสเงินสด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น