ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเกิดกรณี BREXIT
ความจริงว่าจะไม่เขียนบทความใดๆ เพราะเป็นความเชื่อแต่ละคนมากกว่า
ว่าจะมากจะน้อย เพราะเป็นเรื่องของอารมณ์มากกว่า ใครหนักแน่นแค่ไหน
กลัวแค่ไหนก็แต่ละบุคคล ไม่มีใครถูกผิด เพราะผลออกมาก็จะเฉลยเอง ไม่มีใครรู้ได้เลย
แต่ที่อ่านหลายสำนักออกมาบอกเรื่องผลกระทบงบการเงิน
ตัวนั้นตัวนี้โดนผลกระทบแบบนั้นแบบนี้ เห็นว่าแนะนำแบบผิดๆหลายประเด็น
ไม่รู้เรื่องบัญชีจริงๆ เท่าไรนัก มีถูกมีผิด
คิดว่าอาจทำให้หลายคนเข้าใจบางประเด็นทางหลักวิชาการผิดๆ
1. กรณีค่าเงินปอนด์อ่อนตัวนั้น
ก็เหมือนกับค่าเงินต่างประเทศออ่อน เงินบาทแข็ง โดยหลักแล้ว
กรณีการรับรู้ผลกระทบในงบกำไรขาดทุนนั้น ผลการแตกต่างจะเข้าท่อนบน
ถ้ารายการนั้นคือ ผลจากการดำเนินงานโดยตรง
เช่นเกิดจากการซื้อขายสินค้าหรือวัตถุดิบ
กิจการที่ส่งออกโดยตรงสินค้าจากไทยจะแพงขึ้นในสายตาเงินสกุลประเทศนั้นถ้าเราขายราคาเงินบาทเดิม
ฉนั้นยอดขายจะลดลง นอกจากสินค้าต้องขายมากชิ้นขึ้น ถ้าลดราคาขายเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด
ยอดขายในรูปบาทอาจไม่ลด หรือเพิ่มไม่มาก แต่อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง
2. ถ้ามีสินทรัพย์เช่นลูกหนี้การค้า
หรือสินทรัพย์หมุนเวียนที่เป็น Monetatry Asset (สินทรัพย์ที่เป็นตัวเงิน)
จะเกิดขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ผลต่างนี้จะเข้ากำไรขาดทุนท่อนบน รายการที่เป็น Monetatry
Asset ก็มีเงินลงทุนชั่วคราว (สินทรัพย์หมุนเวียน)
ไม่ใช่เงินลงทุนระยะยาว
3. ถ้ามีหนี้สิน ไม่ว่าระยะสั้น ระยะยาว
คือเจ้าหนี้การค้า เงินกู้ยืมระยะยาวหรือระยะสั้นต่างประเทศ
จะได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผลต่างจะเข้าท่อนบนของกำไรขาดทุน
4. ตรงนี้ครับที่ผิดหมดทุกสำนัก หรืออธิบายไม่ชัดเจน
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่เป็นเงินลงทุนทุกประเภท
ผลกระทบจะไม่เข้ากำไรขาดทุนท่อนบนครับ หากมีผลต่างเกิดขึ้นจากการวัดมูลค่าจะเข้างบกำไรขาดทุนท่อนสอง
(กำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น) ไม่เกี่ยวกับ EPS แต่กระทบ BV
(Book Value) P/BV จะดูสูงขึ้น P/E ไม่กระทบ ROE
จะสูงขึ้นเพราะ Equity ลดลง ถ้าหากมองแล้ว P/E
ไม่กระทบ ROE เพิ่ม ROA เพิ่ม
P/BV เพิ่ม ราคาหุ้นไม่น่ากระทบมาก จากปัจจัยทั้งสามที่บอก
ดังนั้นหากใครบอกว่ากระทบงบการเงินและอัตราส่วน ก็แสดงว่าไม่เข้าใจเรื่องทางบัญชีดีพอ
5. เงินลงทุนไม่หมุนเวียนอื่นหรือเผื่อขาย (ถือ<
20%) ผลต่างที่เกิดเหมือน Mark to Market ผลต่างจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุน
จะรับรู้เข้างบกำไรขาดทุนท่อนสอง (กำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น)
6. เงินลงทุนร่วม (20-50%) ถ้าต้องปรับมูลค่าก็เหมือนเงินลงทุนไม่หมุนเวียนอื่นหรือเผื่อขาย
ผลต่างจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุน จะรับรู้เข้างบกำไรขาดทุนท่อนสอง
(กำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น) ส่วนแบ่งกำไรรับรู้ตามสัดส่วนเหมือนเดิม
ส่วนจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงขึ้นกับผลปะกอบการ
การที่บริษัมร่วมอยู่ในประเทศที่ค่าเงินอ่อนอาจได้เปรียบทางการค้าระหว่างประเทศ
กำไรอาจดีขึ้นชดเชยการอ่อนค่าก็ได้
7. เงินลงทุนในบริษทย่อย (>50%) ต้องจัดทำงบการเงินรวม ผลต่างจะถูกปรับปรุงเรียกว่า ผลต่างจากการแปลงค่า ซึ่งรายการนี้จะเกิดเมื่อทำงบการเงินรวม
และผลต่างนี้จะรับรู้เข้างบกำไรขาดทุนท่อนสอง (กำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น)
8.
สรุปผลกระทบทางตรงคือกิจการที่มีกิจกรรมดำเนินงานโดยตรง นำเข้า ส่งออก และกู้ยืม
และจะมากหรือน้อยต้องดูสัดส่วนธุรกรรมด้วยครับ ส่วนเงินลงทุนระยะยาว
(สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน) ไม่กระทบกำไรขาดทุนท่อนบน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น