ความรู้เกี่ยวกับ
B/E
และ P/N เมื่อเทียบกับหุ้นกู้
ช่วงนี้มีเรื่องการผิดนัดชำระเกี่ยวกับตั๋วบีอีของบริษัทในตลาดฯ
มาก บางคนรู้จักแต่ B/E (Bill of Exchange) เรียกว่าตั๋วแลกเงินแต่ไม่คุ้นกับ
P/N (Promissory Note) ตั๋วสัญญาใช้เงินสองตัวนี้ไม่ต่างครับในงบการเงินก็คือหนี้สินของผู้ออก
เคยถามบางคนต่างอย่างไร
บางคนบอกว่า B/E คือ สถาบันออกตั๋วให้นักลงทุน
เหมือนรับฝากเงิน
P/N คือ บริษัทไปกู้สถาบัน ไม่ใช่ครับ ทั้งสองอย่างคือหนี้
และคำว่าสถาบันคืออะไร สถาบันการเงินหรือเปล่าหรือบริษัท ใครออกก็ได้ครับ บริษัท ธนาคาร
บริษัทเงินทุน เครดิตฟองซิเอร์ หรือ นาย ก บุคคลทั่วไป ออกได้หมด ความแตกต่างอธิบายแบบง่ายๆ
B/E ก็คือตั๋วคิดลด ผู้ออกจะบอกว่าจะจ่ายใครเท่าไร วันไหน
แต่ไม่ระบุดอกเบี้ย ไปหักคิดลดกันเองในวันได้ตั๋ว เช่น บริษัท A ออก B/E ให้ บริษัท Z ในตั๋วจะบอกว่าจะจ่ายให้คนถือตั๋วมารับเงิน
10,000,000 บาทใน วันที่ 1 มีนาคม 2560
(สมมติอีกสามเดือนข้างหน้า 90 วัน) บริษัท A จะได้เงินจากบริษัท Z น้อยกว่าหน้าตั๋วขึ้นกับดอกเบี้ยที่ต้องการ
เช่นต้องการ 12% ต่อปี บริษัท Z
ก็จะให้เงินบริษัท A = 10,000,000 / (1+0.12*90/365)
= 9,712,613.09 การระบุว่าจ่ายให้ผู้ถือตั๋วลอยๆ จะเปลี่ยนมือง่าย ถ้าระบุชื่อต้องสลักหลังตั๋วเมื่อจะโอน
เท่ากับบริษัท A กู้ยืมเงินจากบริษัท Z
10,000,000 บาท
บริษัท
A จะลงบัญชีดังนี้
เดบิต___เงินสด___________9,712,613.09
_______ส่วนลดรอตัดจ่าย____287,386.91
______________________เครดิต เงินกู้ยืม______10,000,000.00
เมื่อจ่ายเงินค่าตั๋วบีอี
บริษัท A จะลงบัญชีดังนี้
เดบิต
เงินกู้ยืม______10,000,000.00
____ดอกเบี้ยจ่าย______287,386.91
____________________เครดิต เงินสด_________10,000,000.00
_________________________ส่วนลดรอตัดจ่าย____287,386.91
กรณีออกตั๋ว
P/N
จะแตกต่างนิดเดียวคือ P/N จะระบุดอกเบี้ยไว้ชัดเจนว่าจะจ่ายกี่
% ต่อปี เช่น บริษัท A ออก P/N ให้ บริษัท Z ในตั๋วจะบอกว่าจะจ่ายให้ 10,000,000
บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 12% ต่อปี ใน วันที่
1 มีนาคม 2560
บริษัท
A จะลงบัญชีดังนี้
เดบิต___เงินสด___________10,000,000.00
______________________เครดิต เงินกู้ยืม______10,000,000.00
เมื่อจ่ายเงินค่าตั๋ว
P/N
บริษัท A จะลงบัญชีดังนี้
เดบิต
เงินกู้ยืม______10,000,000.00
____ดอกเบี้ยจ่าย______295,890.41
____________________เครดิต เงินสด_________10, 295,890.41
ทั้งสองกรณี
บริษัท A ลงหนี้สินในงบการเงิน 10,000,000 แต่บีอีจะแสดงหักส่วนลดรอตัดจ่าย
287,386.91เท่ากับยอดสุทธิ 9,712,613.09 P/N แสดง 10,000,000
แต่เมื่อถึงวันจ่าย ดอกเบี้ยเหือนกันคือ 287,386.91 กับ 295,890.41 ต่างกันเล็กน้อยเพราะเงินต้นได้รับต่างกัน
ดังนั้นจึงไม่แตกต่างกันเพียงแต่
บีอีคือตั๋วคิดลดนั่นเองดอกเบี้ยจะเอาเท่าไร
เวลาเปลี่ยนมือก็ซื้อขายง่าย ส่วน P/N ระบุดอกเบี้ยบนหน้าตั๋ว
ถ้าเปลี่ยนมือก็ต้องคำนวณสองครั้งคือวันครบจะได้รวมดอกเบี้ยตามหน้าตั๋วเท่าไร
และคิดลดกลับมาอีกครั้งว่าอัตราดอกเบี้ยที่ต้องการ (ซึ่งอาจแตกต่างจากหน้าตั๋ว) มูลค่าจะจ่ายลงทุนเท่าไร
จึงยุ่งยากในการซื้อขายเปลี่ยนมือ จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมในภาคเอกชน
จะเห็นว่า
P/N
ก็เหมือน หุ้นกู้ที่ระบุอัตราดอกเบี้ย (Coupon Bond) ส่วน B/E หุ้นกู้ที่เรียกว่า Zero Coupon Bond
หุ้นกู้คือหนี้ที่แบ่งเป็นหน่วยย่อยเท่าๆกัน มองดีๆ ก็เหมือนออก P/N
หลายๆใบๆ ละเท่าๆ กันมาผูกรวมกันล๊อตเดียวใหญ่ๆ ขายนั่นเอง ส่วน B/E
ก็คือ Zero Coupon Bond หลายๆใบกันมาผูกรวมกันล๊อตเดียวใหญ่ๆ
P/N และ B/E ออกให้เฉพาะคนๆเดียว แต่หุ้นกู้ออกขายได้หลายๆ
คนในคราเดียว ดังนั้นจึงไม่ได้แตกต่างจากเรื่องหนี้สินหรือการลงทุนในตราสารหนี้เลย
ดังนั้นใครอ้างว่า เพราะดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ พอบีอีให้ผลตอบแทนสูงก็จึงลงทุน กองทุนนั้นๆ
แย่มาก ตรรกะผิด เพราะถ้ามันคือหนี้ ตราสารหนี้ เวลาลงทุนต้องคิดว้าให้กู้ยืม
เวลาให้กู้ยืมคิดดอกเบี้ยเอาแค่ส่วนต่างสูงกว่าเงินฝากเล็กน้อยหรือ
เห็นการเบี้ยวหนี้ผิดนัดชำระแล้วสมเพชคนลงทุนมากกว่าครับ
ส่วนที่ผิดนัดชำระพวกนี้ก็แค่ NPL ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น