วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2560

ความรู้เกี่ยวกับ B/E และ P/N เมื่อเทียบกับหุ้นกู้


ความรู้เกี่ยวกับ B/E และ P/N เมื่อเทียบกับหุ้นกู้

ช่วงนี้มีเรื่องการผิดนัดชำระเกี่ยวกับตั๋วบีอีของบริษัทในตลาดฯ มาก บางคนรู้จักแต่ B/E (Bill of Exchange) เรียกว่าตั๋วแลกเงินแต่ไม่คุ้นกับ P/N (Promissory Note) ตั๋วสัญญาใช้เงินสองตัวนี้ไม่ต่างครับในงบการเงินก็คือหนี้สินของผู้ออก



เคยถามบางคนต่างอย่างไร บางคนบอกว่า B/E คือ สถาบันออกตั๋วให้นักลงทุน เหมือนรับฝากเงิน

P/N คือ บริษัทไปกู้สถาบัน ไม่ใช่ครับ ทั้งสองอย่างคือหนี้ และคำว่าสถาบันคืออะไร สถาบันการเงินหรือเปล่าหรือบริษัท ใครออกก็ได้ครับ บริษัท ธนาคาร บริษัทเงินทุน เครดิตฟองซิเอร์ หรือ นาย ก บุคคลทั่วไป ออกได้หมด ความแตกต่างอธิบายแบบง่ายๆ B/E ก็คือตั๋วคิดลด ผู้ออกจะบอกว่าจะจ่ายใครเท่าไร วันไหน แต่ไม่ระบุดอกเบี้ย ไปหักคิดลดกันเองในวันได้ตั๋ว เช่น บริษัท A ออก B/E ให้ บริษัท Z ในตั๋วจะบอกว่าจะจ่ายให้คนถือตั๋วมารับเงิน 10,000,000 บาทใน วันที่ 1 มีนาคม 2560 (สมมติอีกสามเดือนข้างหน้า 90 วัน) บริษัท A จะได้เงินจากบริษัท Z น้อยกว่าหน้าตั๋วขึ้นกับดอกเบี้ยที่ต้องการ เช่นต้องการ 12% ต่อปี บริษัท Z ก็จะให้เงินบริษัท A = 10,000,000 / (1+0.12*90/365) = 9,712,613.09 การระบุว่าจ่ายให้ผู้ถือตั๋วลอยๆ จะเปลี่ยนมือง่าย ถ้าระบุชื่อต้องสลักหลังตั๋วเมื่อจะโอน เท่ากับบริษัท A กู้ยืมเงินจากบริษัท Z 10,000,000 บาท

บริษัท A จะลงบัญชีดังนี้

เดบิต___เงินสด___________9,712,613.09

_______ส่วนลดรอตัดจ่าย____287,386.91

______________________เครดิต เงินกู้ยืม______10,000,000.00

เมื่อจ่ายเงินค่าตั๋วบีอี บริษัท A จะลงบัญชีดังนี้

เดบิต เงินกู้ยืม______10,000,000.00

____ดอกเบี้ยจ่าย______287,386.91

____________________เครดิต เงินสด_________10,000,000.00

_________________________ส่วนลดรอตัดจ่าย____287,386.91



กรณีออกตั๋ว P/N จะแตกต่างนิดเดียวคือ P/N จะระบุดอกเบี้ยไว้ชัดเจนว่าจะจ่ายกี่ % ต่อปี เช่น บริษัท A ออก P/N ให้ บริษัท Z ในตั๋วจะบอกว่าจะจ่ายให้ 10,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 12% ต่อปี ใน วันที่ 1 มีนาคม 2560

บริษัท A จะลงบัญชีดังนี้

เดบิต___เงินสด___________10,000,000.00

______________________เครดิต เงินกู้ยืม______10,000,000.00

เมื่อจ่ายเงินค่าตั๋ว P/N บริษัท A จะลงบัญชีดังนี้

เดบิต เงินกู้ยืม______10,000,000.00

____ดอกเบี้ยจ่าย______295,890.41

____________________เครดิต เงินสด_________10, 295,890.41



ทั้งสองกรณี บริษัท A ลงหนี้สินในงบการเงิน 10,000,000 แต่บีอีจะแสดงหักส่วนลดรอตัดจ่าย 287,386.91เท่ากับยอดสุทธิ 9,712,613.09 P/N แสดง 10,000,000 แต่เมื่อถึงวันจ่าย ดอกเบี้ยเหือนกันคือ 287,386.91 กับ 295,890.41 ต่างกันเล็กน้อยเพราะเงินต้นได้รับต่างกัน



ดังนั้นจึงไม่แตกต่างกันเพียงแต่ บีอีคือตั๋วคิดลดนั่นเองดอกเบี้ยจะเอาเท่าไร เวลาเปลี่ยนมือก็ซื้อขายง่าย ส่วน P/N ระบุดอกเบี้ยบนหน้าตั๋ว ถ้าเปลี่ยนมือก็ต้องคำนวณสองครั้งคือวันครบจะได้รวมดอกเบี้ยตามหน้าตั๋วเท่าไร และคิดลดกลับมาอีกครั้งว่าอัตราดอกเบี้ยที่ต้องการ (ซึ่งอาจแตกต่างจากหน้าตั๋ว) มูลค่าจะจ่ายลงทุนเท่าไร จึงยุ่งยากในการซื้อขายเปลี่ยนมือ จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมในภาคเอกชน



จะเห็นว่า P/N ก็เหมือน หุ้นกู้ที่ระบุอัตราดอกเบี้ย (Coupon Bond) ส่วน B/E หุ้นกู้ที่เรียกว่า Zero Coupon Bond หุ้นกู้คือหนี้ที่แบ่งเป็นหน่วยย่อยเท่าๆกัน มองดีๆ ก็เหมือนออก P/N หลายๆใบๆ ละเท่าๆ กันมาผูกรวมกันล๊อตเดียวใหญ่ๆ ขายนั่นเอง ส่วน B/E ก็คือ Zero Coupon Bond หลายๆใบกันมาผูกรวมกันล๊อตเดียวใหญ่ๆ P/N และ B/E ออกให้เฉพาะคนๆเดียว แต่หุ้นกู้ออกขายได้หลายๆ คนในคราเดียว ดังนั้นจึงไม่ได้แตกต่างจากเรื่องหนี้สินหรือการลงทุนในตราสารหนี้เลย ดังนั้นใครอ้างว่า เพราะดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ พอบีอีให้ผลตอบแทนสูงก็จึงลงทุน กองทุนนั้นๆ แย่มาก ตรรกะผิด เพราะถ้ามันคือหนี้ ตราสารหนี้ เวลาลงทุนต้องคิดว้าให้กู้ยืม เวลาให้กู้ยืมคิดดอกเบี้ยเอาแค่ส่วนต่างสูงกว่าเงินฝากเล็กน้อยหรือ เห็นการเบี้ยวหนี้ผิดนัดชำระแล้วสมเพชคนลงทุนมากกว่าครับ ส่วนที่ผิดนัดชำระพวกนี้ก็แค่ NPL ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น