วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

CFROI  กับ P/E


CFROI  กับ P/E

         สำหรับคนที่ไม่เคยอบรมกับผม จะไม่เคยพบอัตราส่วน CFROI มาก่อน แต่ในหนังสือผม หลายเล่มได้กล่าวถึงอัตราส่วนนี้ไว้ บทความนี้มาขยายเพิ่มขึ้นถึงหลักคิดที่มาที่ไป

         ปกติในการดำเนินธุรกิจใดๆ ก็ตามเ มื่อตัดสินใจจะลงทุน ควรใช้หลักการตัดสินใจตามแนวคิดเรื่อง Capital Budgeting ซึ่งจะลงทุนเมื่อมูลค่าปัจจุบัน (PresentValue) ของกระแสเงินสดรับของการลงทุนนั้นๆ ที่เรียกว่า กระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow - FCF) มากกว่าเงินลงทุน (Capital Expenditure - CAPEX) หรือเมื่อ NPV – Net Preset Value) > 0 ; PV(FCF) > CAPEX

        และเมื่อใดที่  มูลค่าปัจจุบัน (PresentValue) ของกระแสเงินสดรับ NPV(FCF) > เงินลงทุน (Capital Expenditure - CAPEX) จะพบว่า IRR (Internal Rate of Return) > ต้นทุนเฉลี่ยเงินทุน (WACC – Weighted Average Cost of Capital)

        ในการตัดสินใจลงทุนในโครงการใดๆ อาจดูค่าระยะเวลาคืนทุน (Payback Period) ด้วยเช่นกัน



CFROI = CFO/PPE  สูตรนี้ใช้หลักการทางการเงินและบัญชี มีข้อสมมติฐานว่าธุรกิจดำเนินงานเพื่อการทำกำไรธุรกิจเสมอ แต่ผลจะได้เท่าไร ดีหรือไม่ก็ต้องแสดงตามจริง ไม่มีธุรกิจไหนตั้งใจให้แย่ ที่แย่เพราะทำได้แย่กว่าที่คิด

CFO = กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ไม่นับรวมกำไรที่เกิดจากกิจกรรมการลงทุน กำไรไม่ใช่ตัวเงินสด และ CFO นี้ปรับการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินในการดำเนินงานแล้ว จึงสามารถเทียบเคียงว่าใกล้ FCF มากที่สุด การที่เราไม่ต้องหัก CAPEX เพราะว่า สินทรัพย์ที่ลงทุนคือ ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ (PPE) (ต้องรวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่นด้วยสำหรับบางธุรกิจ เช่น สัมปทาน อสังหาเพื่อการลงทุน) ถ้าสินทรัพย์เหล่านั้นทำให้เกิดรายได้จากการดำเนินงาน PPE (จะหมายถึงรวมหมดตามที่กล่าวมาข้างต้นเพื่อสะดวกในการเขียน) ถือเป็น Existing Assets ไม่รวมการลงทุนใหม่ (CAPEX คือ New Investment) การลงทุนเพื่อรักษาระดับการผลิต Maintinance คือ Reinvestment จะเป็นเพียงการทดแทนเพื่อรักษารายได้หรือกระแสเงินสดจากการดำเนินงานให้คงที่เท่านั้น ดังนั้นจึงถือว่า

-           CFO จะคงที่ที่ระดับปัจจุบัน

-           NWC ปีต่อๆ ไปไม่เปลี่ยนแปลง

-           CAPEX ไม่มีเพิ่มจากล่าสุดปัจจุบัน ดังนั้น ยอด PPE คือ ยอดการลงทุน

เมื่อ PPE คือ Existing Assets ที่ใช้สร้างรายได้ (กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน) ที่เกิดสมมติฐานคือปีต่อๆ ไป ก็ได้เท่าปีล่าสุดไปตลอด CFO/PPE(เฉลี่ย) ย่อมคือผลตอบแทนที่สินทรัพย์นั้นทำได้ ส่วนกลับก็หมายถึงระยะเวลาคืนทุน คือกี่ปีได้ต้นทุนสินทรัพย์คืนกลับมา

        ถ้ามองแบบง่ายๆ สมมติว่า CFO/PPE = 20% หรือคิดหยาบๆ จะทำให้เงินสด ปีละ 20% นั่นเอง ทำนองคล้ายกับ Sustaineble growth ของ ROE นั่นเอง เมื่อได้ CFOI สูง ก็หมายความว่ามี growth ของ CFO สูงด้วยนั่นเอง

        จากหลัก PEG ของ Peter Lynch ที่บอกว่า P/E หุ้นไม่ควรสูงเกินกว่า Growth และหากเราเชื่อว่าราคาหุ้น กับผลกำไร และกระแสเงินสด FCF มีความเชื่อมโยงกัน

P/E   =  Growth

CFROI = CFO/PPE = Growth ของ CFO = P/E

        เราจึงประเมินหรือกำหนดราคาหุ้นคร่าวๆได้ที่ CFROI

การประเมินนี้ใช้ได้กับกิจการที่มีสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนสัดส่วนสูงๆ (ราว 70-80% ขึ้นไป) หรือต้องใช้ในการสร้างรายได้ และเป็นกระแสเงินสดสูง เช่น โรงพยาบาล โรงแรม โรงไฟฟ้า ค้าปลีก โทรคมนาคม กิจการผลิต (ต้นน้ำ – Upstream) เป็นต้น พวกผลิตทั่วไป หรือมีสัดส่วนสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนไม่สูง และไม่เป็นกระแสเงินสดรับเร็วๆมากๆ จะไม่ใช้ได้ดีนัก อาจติดลบหรือต่ำมาก ส่วนตัว เป็อีกเครื่องมือหนึ่งในการกำหนดกรอบ P/E

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น